ศูนย์ค้นคว้าและฝึกอบรมพลังจิตใต้สำนึก
231 หมู่บ้านซื่อตรง ซ.3 ถ.พหลโยธิน52 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
โทร.02-1163133, 081-4587274
![]() |
ความสำคัญของการหายใจกับการสั่งจิตบำบัด
การหายใจมีความสำคัญต่อการสั่งจิตบำบัดอย่างไร?
เหตุผลที่สำคัญของการหายใจมี 2 ประการด้วยกันคือ ประการแรก การหายใจเป็นวิธีที่จะนำออกซิเจนเข้าไปในร่างกายของเราและเข้าไปสู่อวัยวะต่างๆ ช่วยให้อวัยวะทำงานประสานกันได้ดี ประการที่สอง การหายใจเป็นวิธีที่จะนำออกซีเจนเข้าไปในร่างกายเพื่อขจัดของเสียหรือสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย และสั่งจิตใต้สำนึกให้ปรับอากาศหรือออกซิเจนให้เป็นพลังปราณซึ่งเป็นพลังแห่งชีวิต ให้มีอำนาจในการผ่อนคลายระบบประสาทและกล้ามเนื้อทุกส่วนทั่วร่างกายทำให้จิตและกายรวมตัวเป็นหนึ่ง ช่วยให้จิตสำนึกพักผ่อน ช่วยให้จิตสำนึกหลับ ช่วยให้จิตสำนึกสงบเข้าสู่ภวังค์ได้อย่างล้ำลึก
ปรับออกซิเจน เป็นพลังปราณฟื้นฟูชีวิต ทำไมออกซิเจนหรือลมปราณ
จีงจำเป็นและสำคัญสำหรับชีวิต?
ออกซิเจนหรือลมปราณ เป็นอาหารชนิดหนึ่งของร่างกายที่จำเป็นมาก โดยที่ร่างกายของเราจะขาดเสียมิได้ เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นต่อสมอง ประสาท ต่อมต่างๆ และอวัยวะภายในทั้งหมด เราสามารถจะมีชีวิตอยู่ได้โดยปราศจากอาหารเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และปราศจากน้ำได้หลายวัน แต่ถ้าขาดอากาศออกซิเจนหรือลมปราณเพียงไม่กี่นาที ทำให้เราเสียชีวิตได้ทันที ถ้าสมองไม่ได้รับอากาศออกวิเจนเพียงพอ มีผลทำให้อวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายเสื่อมเสียได้
สมองต้องการออกซิเจนมากกว่าอวัยวะอื่นๆ ทั้งหมดทั่วร่างกาย ถ้าสมองไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอ จะทำให้สมองเชื่องช้า มีความคิดไปทางด้านลบ มีอาการซึมเศร้า และในที่สุด ทำให้สายตาไม่ดี มองไม่ค่อยจะเห็น หุฟังเสียงไม่ค่อยได้ยิน สำหรับผู้สูงวัยที่มีเส้นโลหิตตีบตัน มักจะกลายเป็นคนหลงๆ ลืมๆ เพราะสมองไม่ได้รับออกซิเจนเพียงพอและทำให้อารมณ์เสียง่าย ร่างกายเสื่อมโทรมและแก่เร็ว นอกจากนี้แล้วยังทำให้การหมุนเวียนของโลหิตดี ทำให้เป็นโรคหัวใจ หัวใจวาย เส้นโลหิตในสมองแตก ถึงแก่ความตาย
ผู้เขียนอยากจะเรียกอากาศหรือออกวิเจนว่า “ลมปราณ” เพราะเป็นคำที่มีพลังอำนาจในตัวเอง เป็นพลังแห่งชีวิตที่ทำให้มนุษย์เราอายุสั้นหรืออายุยืน ทำให้มีสุขภาพเลวหรือสุขภาพดี ทำให้ร่างกายแข็งแรงหรือทำให้ร่างกายอ่อนแอ ทำให้ภูมิต้านทานโรคได้ต่ำหรือได้สูง ทำให้นอนหลับสบายหรือทำให้คนนอนไม่หลับ ทำให้แก่เร็วหรือทำให้คงความหนุ่มสาวอยู่ได้ยาวนาน
ความสำคัญของการหายใจรับพลังลมปราณ
ความจริงแล้วเราทุกคนรู้วิธีหายใจ ซึ่งเป็นการหายใจตามธรรมชาติ เราหายใจได้โดยไม่ต้องคิด ไม่ต้องบังคับ การหายใจเป็นไปตามทำงานของร่างกายอย่างอัตโนมัติ แต่มีผู้คนเป็นจำนวนมากหายใจอย่างผิดๆ เนื่องจากไม่รู้วิธีหายใจอย่างถูกต้อง ไม่รู้ว่าหายใจที่ถูกต้องนั้นจะต้องหายใจอย่างไร ดังเราจะเห็นคนส่วนมาก หายใจเข้าออกเร็ว หายใจเข้าสั้นหายใจออกก็สั้น หายใจเข้าเพียงแค่หน้าอกเท่านั้น แล้วก็หายใจออกหายใจเพียงตื้นๆ วิธีการายใจเข้า-ออกสั้นและเร็วเช่นนี้ มิเพียงจะทำให้ร่างกายไม่แข็งแรงแล้ว ยังทำให้ร่างกายอ่อนเพลียง่าย อารมณ์เสียง่าย ขี้โกรธขี้โมโห ใจน้อย ปอดไม่แข็งแรง เหนื่อยง่าย ทำให้การหมุนเวียนโลหิตไม่ดี มีผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกายไปทั้งหมด และในที่สุดทำให้มีอายุสั้นลง
การหายใจรับพลังลมปราณที่ถูกวิธีคือ การหายใจเข้า-ออก ให้ช้าๆ ให้ลึกถึงศูนย์กลางกาย ตรงสะดือ การหายใจเข้าออกช้าๆ ทำให้ปอดได้รับออกวิเจนได้มาก ช่วยให้ปอดมีพลัง ฟอกโลหิตได้ดีขึ้น ทำให้เซลล์ทั่วไปในร่างกายแข็งแรงขึ้น ลองพิจารณาดูสัตว์ที่หายใจช้า มักมีอายุยืนยาว เช่น ช้าง เป็นต้น ดังนั้น เราจำเป็นต้องหายใจให้ช้ามากขึ้น หายใจให้ลึก ซึ่งมิเพียงช่วยให้ร่างกายมีระบบต้านทานโรคดีขึ้น ทำให้มีสุขภาพจิตและกายดีและทำให้จิตใจและร่างกายมีพลัง
ในการสั่งจิตบำบัดของอาจารย์บุญเลิศ สายสนิท จะต้องเริ่มต้นด้วยการให้ ผู้เข้ามาขอรับการการบำบัดแก่ปัญหาสุขภาพจิตและสุขภาพกายด้วยการ“หายใจ” เข้าออกช้าๆ และลึกๆ 5-10 ครั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้ได้รับพลังลมปราณเข้าสู่ปอด หัวใจ ประสาท และอวัยวะต่างๆ ทั่วร่างกาย วิธีนี้ช่วยให้ร่างกายทุกส่วนผ่อนคลายลง ทำให้จิตใจและกายรวมเป็นหนึ่ง จิตใจสงบเร็วขึ้น สะดวกต่อการสั่งจิตบำบัดแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตและสุขภาพกายอย่างได้ผล
ผมจะกล่าวถึงวิธีนำพลังงานของปราณ ซึ่งเป็นพลังชีวิตเข้าไปสู่อวัยวะทุกส่วนของร่างกาย โดยเริ่มจาก ปอด หัวใจ เซลล์เม็ดเลือด ประสาท กล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เส้นเอน กระดูก และไขกระดุก หลังจากนั้น จะมีการทดสอบว่า จิตสำนึกผ่อนคลายสงบลงแล้วหรือยัง จิตใต้สำนึกพร้อมที่จะรับคำสั่งจิตได้หรือยัง เมื่อทดสอบดูแล้วเห็นว่า จิตใจและร่างกายของผู้ขอรับการบำบัดพร้อมแล้ว ก็จะเริ่มทำการสั่งจิตบำบัดทันที
ต่อไปนี้ จะเป็นการสั่งจิตบำบัด แก้ปัญหา การนอนไม่หลับสำหรับตนเอง โดยพูดในใจ (ย่อๆ)
“จงหลบตาลงเบาๆ หายใจเข้า-ออกให้ช้าๆ ถึงศูนย์กลางกาย กล้ามเนื้อทั่วบริเวณศีรษะผ่อนคลาย กล้ามเนื้อทั่วใบหน้าผ่อนคลาย กล้ามท้ายทอยและแผ่นหลังผ่อนคลาย กล้ามเนื้อไหล่และแขนผ่อนคลาย กล้ามเนื้อหน้าอกและท้องผ่อนคลาย กล้ามเนื้อรอบเอว ตะโพก น่องจรดปลายนิ้วเท้าผ่อนคลาย ต่อไปนี้ จะนับ สาม ถึง หนึ่ง เมื่อถึงหนึ่ง กล้ามเนื้อและระบบประสาททั้งร่างกายผ่อนคลายลงหมดสิ้น
3-2-1 (นับช้าๆ) กล้ามเนื้อระบบประสาททั่วร่างกายผ่อนคลายลงหมดสิ้นแล้ว
ต่อไปนี้ จิตสำนึกของฉันจะหลับพักผ่อนให้สบาย ค่ำคืนวันนี้ ฉันจะหลับอย่างสนิท หลับอย่างสบาย หลับอย่างมีความสุข ฉันจะตื่นเวลา......น. ตื่นสู่ความสุขสดชื่นแจ่มใส มีพลังจืตและพลังกายในการทำงานอย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จทุกเรื่อง คืนนี้ฉันจะหลับสนิท หลับสบายและหลับอย่างมีความสุขตลอดตืน...”
โดย อ. ดร. บุญเลิศ สายสนิท A.M.D., M.H.A., N.L.P., C.Ht
ผู้เชี่ยวชาญการสั่งจิตบำบัดทางการแพทย์และทันตกรรมนานาชาติ USA |